ครั้งนี้เอาเนื้อเรื่องหลักของ Splatoon 1 มาเขียน และ เนื้อหา ก่อนเริ่มภาค 2 มาเขียนให้อ่านกันครับ โดยจะเขียนเฉพาะ Story นะครับ สำหรับ History จะเอามาเขียนภายหลังครับ
เนื้อเรื่องย่อภาค 1
ในเมือง ไฮคัลเลอร์ซิตี้ ที่กลุ่มปลาหมึกและสัตว์น้ำอื่นๆที่อาศัยกันอย่างสงบนั้น กลับมีพวกกลุ่มปลาหมึกยักษ์ออคตาเลี่ยน(ทาโกะ) มาขโมยปลาดุกโอเดนจิ ซึ่งเป็นพลังงานไฟฟ้าจากเมืองไป ปลาหมึกตาแก่ลึกลับน่าสงสัยนามว่า อาตาริเมะ ได้มาขอให้เรา (Player) ช่วยต่อสู้กับพวกออคตาเลี่ยน และแย่งชิงเอาปลาดุกโอเดนจิ กลับมาสู่เมืองให้ได้ และให้เราเข้ากลุ่มทหาร New!คาลาสทอนบี ซึ่งมี อาโอริ และ โฮตารุ ไอดอลที่กำลังโด่งดังในเมืองไฮคัลเลอร์ซิตี้ อยู่ร่วมในกลุ่มทหารนี้ด้วย เป็นทหาร หมายเลข 1 2 และตัวเราเป็นหมายเลข 3 แล้วพวกเราก็สามารถจัดการกับ DJ Octavio บอสใหญ่ของพวกออคตาเลี่ยน มาจับขังไว้ ควบคุมสถานการณ์ของพวกออคตาเลี่ยนให้สงบลงได้ และได้ปลาดุกโอเดนจิ กลับมาสู่เมืองอีกครั้ง
[qd_table]
[/qd_table]
หลังจากภารกิจจบ สองสาวไอดอล โฮตารุ และ อาโอริ แห่งวง ชิโอะคัลเลอร์ ก็ทำงานไอดอลประจำเมืองตามปกติเหมือนเดิม โดยเป็นผู้ประกาศสนามการแข่งขันการยึดที่ และร้องเพลงในงานเทศกาลต่างๆในเมือง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันยึดที่ ได้เลือกฝ่ายต่อสู้ เพื่อเอาชนะฝั่งตรงข้าม จนถึง Festival สุดท้าย…
เนื้อเรื่องหลังจากจบภาค 1 ไป 2 ปี ของสองไอดอลวงชิโอะคัลเลอร์
อาโอริ กับ โฮตารุ สองพี่น้อง ที่เต้นและร้องเพลงด้วยกัน หลังจากจบ Last Festival ทั้งสองก็ดังจนฉุดไม่อยู่
จากไอดอลประจำเมืองไฮคัลเลอร์ซิตี้ กลายเป็น ท๊อปสตาร์ที่มีงานเยอะไม่ขาดสายไปแล้ว ทั้งสองสมัยก่อนอาศัยอยู่ด้วยกันหลังจากเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองหลวง
ต่างก็กลัวและไม่มั่นใจในการอยู่เมืองหลวงเลย ด้วยเรื่องของการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆ
แต่ทั้งสองคนก็สู้และอยู่ด้วยกันตลอด ทั้งสองอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่จำความได้ พอเริ่มชินกับการอยู่ในเมืองหลวง ทั้งสองก็ไม่เคยคิดเรื่องทีจะแยกกันอยู่เลย
ไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัวหรือการทำงาน ทั้งสองก็อยู่ด้วยกันตลอด แต่ว่าทันทีที่เริ่มมีเพลงเดี่ยวออกมา ก็เริ่มมีงานเข้ามาเยอะมากขึ้น
อาโอริมีงานเป็นรายการวาไรตี้มากขึ้น มีงานบันทึกรายการเยอะขึ้น จนกระทั่งบางวันก็ไม่ได้กลับมาบ้านเลย บ่อยมากขึ้น
โฮตารุ หลังจากร้องเพลง sumiso ae no yoru ก็มีงานร้องเพลงประกอบ และถ่ายละครมากขึ้น
จากที่ทั้งสองเคยออกจากบ้านด้วยกัน กลับบ้านด้วยกัน ตอนนี้กลายเป็นต่างคนต่างกลับบ่อยขึ้น
เวลาที่ทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกัน นั้นเริ่มน้อยลงเรื่อยๆแล้ว
วันหนึ่ง โฮตารุ อยู่ที่ห้องคนเดียว ในวันนั้นไม่มีงาน แต่ในเดือนหน้าจะมีงานซ้อมละครเริ่มขึ้น ทำให้ทุกวันต้องเหนื่อยและวุ่นวายแน่นอน
ฉะนั้นเวลาที่จะได้พักผ่อนมีแค่ตอนนี้เพียงเท่านั้น แต่ว่า อาโอริ ต้องทำงานยันดึก ไม่ได้กลับมาเสียที โฮตารุก็เลยทำความสะอาดงานบ้าน
เพื่อรออาโอริกลับมาบ้าน ในตอนนั้น โฮตารุก็เกิดคิดขึ้นมา
หลังจากตัดสินผล Last Festival ในตอนนั้น อาโอริ คิดอะไรบ้างรึเปล่านะ?
จะรู้สึกเจ็บใจรึเปล่านะ ยิ่งอาโอริ เป็นคนที่เกลียดการพ่ายแพ้เสียด้วยสิ แต่ว่าเธอคงไม่ได้อิจฉาริษยาอะไรใช่ไหม?
ไม่หรอกน่ะ คิดมากเกินไปแล้ว อาโอริ ไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอก
กลับกัน เรากลับคิดว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าอาโอริด้วยซ้ำไป เราอาจจะคิดแบบนั้นก็เป็นได้
โฮตารุ เริ่มรู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว..
วันหนึ่ง โทรศัพท์มือถือของอาโอริ ดังขึ้นมา ทำให้ตื่นซะแล้ว นึกว่าใครซะอีก จากเมเนเจอร์นั่นเอง
ดูเหมือนว่า ที่วันนี้มีนัดถ่ายละคร จะถูกเลื่อนออกไป กลายเป็นว่าวันนี้ว่างแล้วสิ
นานๆทีจะได้หยุดพักซะที อาโอรุิรู้สึกว่าวันนี้โชคดีขึ้นมานิดๆ
พอมองไปรอบๆห้อง ก็ไม่เห็นโฮตารุ จะว่าไป วันนี้ก็เป็นวันหยุดของโฮตารุเหมือนกันนี่นะ
มองดูที่นาฬิกา เพิ่งจะ 8 โมงกว่าๆเอง ถ้าจะบอกว่าโฮตารุจะออกไปซื้อของ มันก็ไวเกินไปนะ
อาโอริแต่งเนื้อแต่งตัว แล้วก็ออกไปตามหาโฮตารุในเมืองดู
จะว่าไป ช่วงหลังๆมานี้ โฮตารุ ดูไม่ค่อยร่าเริงเลย ทำงานหนักไปรึเปล่านะ? หรือไปเจอเรื่องอะไรไม่ดีเข้ารึเปล่านะ?
แต่ว่าจะห่วงโฮตารุมากไปก็ไม่ดี เดี๋ยวเราจะหดหู่ตามไปด้วย
ในวันนี้วิเศษแบบนี้ เราไปชวนโฮตารุเที่ยวดีกว่า
และแล้วเจอโฮตารุ นั่งอยู่ด้วยกันกับล๊อบ
ทั้งสองคน นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกัน มองหน้ากัน พูดคุยกันสนุกสนาน ทั้งล๊อบและสองพี่น้อง บ้านเกิดอยู่ใกล้กัน ก็เลยเข้ากันได้ดี
โฮตารุใส่หมวกปิดบังใบหน้า ก็เลยมองไม่เห็นสีหน้า แต่ดูเหมือนว่าโฮตารุจะกำลังสนุกร่าเริงอยู่ดี
จะเข้าไปเป็นก้างขวางคอ ก็คงจะไม่ดี อาโอริก็เดินเลยกลับห้องโดยไม่พูดอะไรเลย
ขณะที่กำลังเตรียมอาหารเชียวอยู่ โฮตารุก็กลับมาที่ห้อง
โฮตารุที่กำลังตกใจ ที่อาโอริตื่นแต่เช้า ก็ทักไปว่า อรุณสวัสดิ์ อาโอริก็ตอบตักทายด้วยโทนเสียงเบาๆ กลับไป
นี่ล่ะ โฮตารุคนเดิม ทั้งสองคนกินข้าวเช้าด้วยกัน อาโอริลองชวนโฮตารุไปช๊อปปิ้งดู
โฮตารุ ตอบตกลง แล้วทั้งสองก็ออกไปด้วยกัน
[qd_table]
ล๊อบ & Crusty Sean พนักงานร้านรองเท้า |
---|
[/qd_table]
ทั้งสองมาที่ อโลวาน่ามอล ครั้งล่าสุดเมื่อไรกันนะ? ตอนนี้มีร้านใหม่ๆมากันเต็มไปหมด ทั้งสองสนุกกับการเดินดูร้านค้าต่างๆ
แล้วก็หยุดพักที่คาเฟ่ ร้านนึง อาโอริ สั่งไอซ์เลมอนที ส่วนโฮตารุ สั่งมิลค์ที
แล้วทั้งสองก็คุยกันเกี่ยวกับเรื่องงานที่ทำอยู่ออกมา
ไม่ว่าจะเป็น เรื่องไปดูสถานที่ทำงาน เรื่องความลับของนักแสดงคนอื่น คุยกันเยอะมากจนเรื่องที่จะคุยนั้นไม่มีแล้ว
อาโอริก็เผลอหลุดเรื่องที่เจอโฮคารุ ที่คาเฟ่ออกมา
โฮตารุก็ทำหน้าตกใจ ไม่คิดว่าจะเห็น แต่ก็ไม่ได้ลังเลอะไร แล้วก็เริ่มพูดเรื่องที่คุยกับล๊อบเมื่อเช้าให้อาโอริฟัง
ดูเหมือนว่า หลังๆมา ล๊อบจะเลิกทำงานที่ร้านรองเท้าแล้ว จากที่เคยเป็นคนดูแลร้านมาตลอด
ล๊อบมีความฝันว่า เมื่อไรทีมีอิสระ ล๊อบอยากจะมีร้านรองเท้าเป็นของตัวเองมาก เพื่อนของล๊อบแนะนำงานใหม่มา เห็นบอกว่าจะทำให้ความหวังของล๊อบนั้นเป็นจริงไวขึ้น
ล๊อบจะโอเคไหมนะ ยิ่งเป็นคนที่ง่ายๆเกินไปอยู่ด้วย โฮตารุ ดูท่าทางจะเป็นห่วงล๊อบมากๆ
จากที่ฟังจากล๊อบมา ตอนนี้อาเนโม่ก็กำลังหางานใหม่อยู่เหมือนกัน เดิมทียิ่งดูแลลูกค้าไม่ค่อยเก่งอยู่ ก็เลยคิดจะหางานที่ไม่ต้องรับหน้าลูกค้าแทน
ล่าสุดก็ทำงานที่ ร้าน Gunburi Arms ทำหน้าที่ปรับแต่งอาวุธ กำลังวุ่นวายน่าดูเลย
อย่าบอกนะว่า อาเนโม่ กับ จะทำอะไรร่วมกัน !? อาโอริ ตกใจขนาดลุกขึ้นยืน โฮตารุบอกว่า มันเป็นความลับนะ แต่ไหนๆก็พูดแล้ว
ตอนนี้บุกิจิ กำลังมีแผนจะทำร้าน Gunburi Arms สาขา 2 อยู่ล่ะ ช่วงหลังๆมา มีเมืองแห่งนึงที่พวกคนหนุ่มสาวมารวมตัวกัน เพื่อแข่งกันยึดพื้นที่ด้วยล่ะ บุกิจิ กำลังเล็งจะไปขายอยู่ที่เมืองนั้น
จะว่าไป หลังๆมา ไม่ได้เจอกับตาลุงอาตาริเมะเลยนะ คงจะยุ่งน่าดู เราลองไปหาเขาดูที่บ้านก็ไม่เจอ พวกทาโกะก็ดูเงียบสงบดี
เพราะงั้นคงไม่ต้องห่วงตาลุงแกหรอกเนอะ ? ทั้งสองมองหน้ากัน แล้วก็หัวเราะออกมา
[qd_table]
อาเนโม่ & Annie พนักงานร้านอุปกรณ์สวมใหญ่ส่วนบน |
|
---|---|
บุกิจิ & Sheldon พนักงานร้านอาวุธ |
[/qd_table]
ทั้งสองได้คุยด้วยกันเต็มที่ แล้วพระอาทิตย์ก็เริ่มลับฟ้า ได้เวลากลับบ้านแล้ว ในขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน ว่าแล้วล่ะ ว่าการที่ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน มันสนุกจริงๆ
ไม่สิจะบอกว่าสนุกมันก็ไม่ใช่ แต่มันทำให้จิตใจมันเติมเต็ม สิ่งที่ทั้งสองคิดมากอยู่ในใจ มันได้หายไปหมดแล้ว
วันหนึ่ง โฮตารุได้เตรียมข้าวของใส่กระเป๋า เพื่อที่จะออกเดินทางกลับบ้านเกิด ถึงจะกระทันหัน แต่ก็ได้วันหยุดพักมา 3 วัน
หลังจากหมด 3 วันหยุดนี้ จะมีงานถ่ายละครเริ่มขึ้น จะไม่เหลือเวลาให้หยุดพักผ่อนแล้ว ฉะนั้นต้องพักผ่อนให้เต็มที่
อาโอริก็คิดจะกลับเหมือนกัน แต่ว่าวันแรกมีงานอยู่ โฮตารุ ก็เลยกลับก่อน เพราะว่ามีวันหยุดเพียงน้อยนิด
“เดี่ยวจะตามกลับไปนะ” อาโอริ พูดกับโฮตารุ แล้วก็จากไป
การที่จะเดินทางกลับบ้านนั้น นั่งรถไฟเพียงแค่ 3 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ไกลอะไรนัก แต่การที่ไม่มีอาโอริอยู่ข้างๆนั้น รู้สึกเหงาเหลือเกิน
นานจะได้กลับมาเห็นหน้าครอบครัวที ทุกคนต้อนรับอย่างอบอุ่น ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ค่อยมีอะไร แต่ความสงบนี่ล่ะที่ทำให้รู้สึกดี
ในขณะที่พระอาทิตย์ได้ล่วงลับฟ้าไป ก็ได้คุยเกี่ยวกับเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงให้ครอบครัวฟัง
พ่อแม่ ถามถึงอาโอริว่าเป็นอย่างไรบ้าง “แน่นอนว่าสบายดี” โฮตารุตอบไป แบบมีชะงักอยู่เล็กน้อย
พอตอบแบบนั้นออกไป ความคิดในใจที่โฮตารุเคยเผลอคิดไม่ดีกับอาโอริ ก็ผุดกลับมาอีกครั้งนึง
วันพรุ่งนี้อาโอริ ก็จะตามมาแล้ว ถ้าได้เจออาโอริ ความรู้สึกผิดเล็กๆในใจ คงจะหายไป โฮตารุติดอย่างนั้น แล้วก็รอจนกว่าจะถึงเช้าวันถัดไป
วันต่อมา โฮตารุ มารออาโอริ ที่สถานีรถไฟ แต่ว่า รถไฟที่อาโอริน่าจะนั่งมา กลับไม่เจออาโอริอยู่
โฮตารุคิดว่า สงสัยจะนอนตื่นสายรึเปล่านะ? ก็เลยรอขบวนต่อไป แต่อาโอริก็ไม่ได้อยู่บนรถไฟนั้นเช่นกัน
ไม่ว่าจะรอขบวนต่อไป ต่อๆไป จนกระทั่งกลางคืน อาโอริ ก็ไม่มาเสียที
โฮตารุ ลองโทรไปที่สำนักงาน ที่อาโอริทำงาน ที่นั่นบอกว่า เมื่อวานพอเลิกงานอาโอริก็รีบกลับทันที
ผู้จัดการบอกว่า อาโอริดูรีบร้อนมาก คงจะรีบกลับบ้านทันทีเลยตอนนั้น
พอลองโทรไปที่ห้องพัก ก็ไม่มีใครรับสาย โฮตารุ รู้สึกร้อนรนเหลือเกิน
เช้าวันถัดไป โฮตารุ รีบร้อนกลับมาที่ ไฮคัลเลอร์ซิตี้ทันที
ต้องขอโทษพ่อแม่ ที่รีบกลับมาเมืองหลวง แต่ว่ารู้สึกเป็นห่วงอาโอริมาก ไม่มีกระจิตกระใจที่จะนั่งอยู่บ้านได้
พอถึงไฮคัลเลอร์ซิตี้ปุ๊ป โฮตารุก็รีบกลับไปดูที่ห้องเป็นอย่างแรก สภาพห้องที่เห็นคือ เป็นสภาพเหมือนเดิม กับตอนที่โฮตารุเตรียมออกเพื่อกลับบ้านเลย
ยิ่งไปกว่านั้น ดูแล้วไม่เหมือนว่าอาโอริ จะกลับมาที่ห้องเลย อาโอริ หายไปไหนกัน? โอตารุได้แต่คิดแล้วคิดอีก แล้วก็คิดถึงสถานที่นึงที่อาโอริอาจจะไป แล้วโฮตารุก็รีบไปทันที
โฮตารุ ลองมาที่บ้านของ ตาลุงอาตาริเมะดู แต่ก็ว่างเปล่า ข้างในนั้นไม่มีสภาพที่เหมือนว่ามีใครอาศัยอยู่เลย โฮตารุจึงกลับมาที่ไฮคัลเลอร์ซิตี้อีกครั้งนึง
ที่ไฮคัลเลอร์ซิตี้ มีเรื่องอึกทึกครึกโครมเกิดขึ้น ปลาดุกโอเดนจิ ได้หายไปอีกแล้ว ในครั้งก่อน(ภาค1) ก็หายไป แล้วจู่ๆก็กลับมาไม่ทันตั้งตัว ครั้งนี้เดี๋ยวก็คงกลับมาอีกแหละ
ทุกคนในเมืองคิดอย่างนั้นกัน ส่วนโฮตารุนั้น ได้แต่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว แล้วก็คิดว่า อย่าบอกนะว่า เป็นฝีมือของพวกนั้นอีกแล้ว?
โฮตารุ รู้ตัวว่าถึงเวลาต้องสู้อีกแล้ว แต่ว่าการที่จะรับมือกับพวกนั้น มีแต่เราคนเดียวไม่พอแน่นอน ตอนนี้ตาลุงอาตาริเมะ ก็ไม่อยู่ แถมยังเห็นห่วงอาโอริอีก
อีกไม่นาน คงจะมีคนเริ่มรู้ตัวว่า อาโอริหายตัวไป ถ้าเราหายตัวไปด้วย ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ เราจะทำยังไงดีล่ะ…
จริงสิ! เราพวกผู้ร่วมอุดมการณ์เพิ่มดีกว่า เหมือนกับตอนที่ ตาลุงอาตาริเมะทำ ต้องหาคนหนุ่มสาวที่เก่ง ต้องรีบออกค้นหาด่วน แต่ว่า ที่ไฮคัลเลอร์ซิตี้ ตัวตนของโฮตารุจะเด่นเกินไป
และต้องให้มีผู้ที่รู้เรื่องของ ออคตาเลี่ยน มีน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่คือกฏเหล็กของทหาร New! คาลาสทอนบี
ตอนนั้นเอง ก็นึกขึ้นมาได้ว่า เคยเล่าให้อาโอริฟังว่า “ช่วงหลังๆมา มีเมืองแห่งนึงที่พวกคนหนุ่มสาวมารวมตัวกัน เพื่อแข่งกันยึดพื้นที่ด้วย”
ถ้าเป็นที่นั่น เราจะต้องหาหนุ่มสาวที่ฝีมือดี มาช่วยเหลือเราได้แน่ๆ ไปกันเลยดีกว่า ณ เมืองใหม่ ไฮคัลเลอร์สแควร์ !
เนื้อเรื่องต่อกันที่ Splatoon 2 Hero Mode !
ดูวิดีโอ Hero Mode ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/men9ch/videos/1321632784572003/