คงจะเคยได้ยินกันว่า อย่าก้าวข้ามมาเล่นวิถีหูฟัง เพราะมันจะเสียหายหนัก(ค่าหูฟังที่แพงขึ้นเรื่อยๆ)
กลับกัน หากเข้าถึงวิถีไมโครโฟน ก็กระเป๋าแหกได้เช่นกัน
ใน Timeline การใช้ Microphone ของผมนั้น มีวิวัฒนาการเรื่อยๆดังนี้
ไมค์ขาตั้งกากๆ ( 3.5mm Mic ) | 99 บาท
↓
หูฟัง+ไมค์ กากๆ ( 3.5mm Mic ) | 199 บาท
↓
หูฟัง+ไมค์ Razer Carcharias ( 3.5mm Mic ) | 2000 บาท
↓
หูฟัง+ไมค์ Sony Wireless Headset 7.1 ( USB Wireless Mic ) | 3500 บาท
↓
หูฟัง+ไมค์ Sony Wireless Headset 7.1 PULSE ( USB Wireless Mic ) | 3500 บาท
↓
หูฟัง+ไมค์ Razer Tiamat ( 3.5mm Mic ) 3300 บาท
↓
ไมค์ Sony ECM-PC60 ( Electric Condenser ) | 780 บาท
↓
ไมค์ Blue Yet-i ( Condenser Mic ) | 99 usd+etc 75 usd
เป็นครั้งแรกที่ผมก้าวข้ามออกจากการใช้ไมโครโฟนแบบ 3.5mm ที่ต้องพึ่งความเทพของซาวการ์ด ในการทำให้ไมค์โครโฟน มีประสิทธิภาพสูง
ผมได้ก้าวมาสู่ไมโครโฟน Condenser ของแท้ ที่มีคุณภาพมากกว่า Electric Condenser แล้ว นั่นก็คือ Blue Microphone Yet-i หรือที่เรียกกันว่า บลูเยติ
ผมสั่งซื้อจาก Amazon ช่วงเดือนธันวาคม ที่เป็นช่วง Black Friday ลดราคาสนั่นเว็บ Amazon แต่น่าเสียดายว่าตัว Blue Yet-i ที่ผมซื้อนั่นมันลดแค่ 6usd เท่านั้น
แถมยังไม่รวมภาษีเลยด้วยซ้ำ สรุปคือไม่ต่างกันเลย ซื้อธรรมดา หรือ ซื้อตอนลดราคา แต่ก็เอาเถอะ ยังไงก็ถูกกว่าพวกคนที่หิ้วมาขายในไทย
ขายกันราคาโหดมาก ตั้ง 6 พันกว่าบาท ผมได้มาแค่ 3200 โดยประมาณเท่านั้น…
ก็เลยให้เพื่อนที่ไปเที่ยวอเมริกาช่วงสิ้นปี ช่วยสั่งแล้วหิ้วกลับมาให้
เมื่อเทียบกับ Sony ECM PC60 ที่ผมใช้อยู่ ก็ขนาดต่างกันตามนี้..
เปิดกล่องมาก็เจอสาย USB 2.0 ที่ยาวมากๆแค่เส้นเดียวเท่านั้น นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วนอกจาก สมุด Manual เล่มเล็กๆ ที่ไม่ต้องไปสนใจมัน
ตัวไมค์ถูกพับเก็บอย่างเรียบร้อย แน่นอนว่า ถ้าหมุนตั้งขึ้นมา มันจะสูงกว่ากล่องที่ใส่มาซะอีก
ตัวไมค์มีฟังก์ชั่น แค่ไม่กี่อย่าง นั่นก็คือ
ด้านหน้า –
> ปุ่ม Mute ไมค์โครโฟน
> Volume สำหรับ Playback Audioของตัวไมค์
ด้านหลัง –
> Gain คือการปรับ Voice Activation อธิบายเป็นไทยยังไงดี ประมาณว่า การตอบรับเสียงที่จะเข้าไมค์เข้าไปนั่นล่ะครับ
> การตั้งรับเสียง ที่ต้องการ ดังนี้ (จากซ้ายไปขวา)
1. เป็นการรับเสียงโดยเน้นเสียงพูดมากกว่า และรอบข้างเป็นเสียงของเครื่องดนตรี เช่นในคอนเสริตต่างๆ
2. เป็นการรับเสียงโดยรอบ โดยมีไมค์อยู่จุดศูนย์กลาง
3. เป็นการรับเสียงจากด้านหน้าไมค์เท่านั้น ใช้สำหรับการร้องเพลง หรือ อัดเสียง
4. เป็นการรับเสียงระหว่างการสนทนาสองคน โดยหันหน้าหากัน (เอาไมค์ไว้ตรงกลาง)
อุปกรณ์เสริม นั่นคือ Pop Filter หลายๆคนคงไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันก็คือตัวกรองลม ที่เกิดจากการพูดในบางเสียง เช่น Pop , Pa , Pi หรือเสียง P ทั้งหมด
หากยังไม่เข้าใจอีกก็ลองเอา มือมาไว้ใกล้ๆปาก แล้วลองพูด Pop ดูครับ จะมีลมออกมาโดนมือเราแน่นอน และเจ้าตัว Pop Filter นี่แหละจะเป็นตัวกรองลม
ให้ไม่เข้าไปในไมโครโฟนให้เกิดเสียงลมขึ้น (ให้ลองคิดถึงเวลาคุยโทรศัพท์กับคนที่ยืนตากพัดลม หรือ กำลังนั่งรถอยู่ เป็นต้น)
ตัวนี้สั่งมาพร้อมกับ Blue Yet-i ราคา 25 USD โดยตัวขาของมันจะมีตัวเกรียวสำหรับหนีบขอบโต๊ะได้ ตัวกรองมีคุณภาพใช้ได้ ด้านในมีตัวกรองถึง 3 ชั้นเลย
ด้านใต้ของไมค์ก็จะมีแค่ ช่องเสียบ USB , Playback Output และเกรียวสำหรับล๊อคกับขาตั้งไมค์โครโฟน เท่านั้น (หากเป็นตัว Pro จะมีเพิ่ม XLR Cable เข้ามาด้วย)
จากภาพด้านบนจะเห็นว่า ตัวไมค์จะมีตัวเพิ่ม Volume และ Playback Output หมายความว่า ตัวไมค์โครโฟน Blue Yet-i ตัวนี้มี Sound Card ในตัวด้วยนั่นเอง
จากการทดสอบแล้วพบว่า เสียงค่อนข้างดีใช้ได้เลย คุณภาพสูงกว่า Soundcard Onboard มาตรฐานทั่วไปในระดับนึงเลยทีเดียว
วันแรกที่แกะกล่อง ก็จัดวางประมาณนี้ครับ จะพบว่า ไมค์ค่อนข้างสูง และบังหน้าจอมากซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไร
ผ่านมาอีกวันนึง ขาตั้งไมค์ก็ถูกส่งมาถึงบ้านครับ เป็นตัวขาแขวนไมโครโฟน แบบหนีบขอบโต๊ะ ราคา 1400 บาท
หลังจากติดตั้งแล้วจะเป็นประมาณนี้ ถอดขาตั้งที่ให้มาพร้อมกับไมค์ไปได้เลย เวลาไม่ใช้ก็ยกขึ้นด้านบน แล้วหมุนเข้าไปเก็บด้านหลังจอขวาเลย
หลักๆก็ประมาณนี้แหละครับ ส่วนเรื่องเสียง ผมคงไม่ต้องเทสอะไรมาก จากที่ผมลองทดสอบแล้วพบว่า คุณภาพของเสียงนั้นเท่าๆกับ
Sony ECM PC60 ที่ผมใช้ก่อนหน้านี้เลย เพราะผมค่อนข้างบรรลุในการเซ็ตติ้งไมค์บ้านๆให้เทพแล้ว
เพียงแต่ว่า ไมค์ Blue Yet-i นั้นจะมี Gain การรับเสียงที่ค่อนข้างสูงมาก จับเสียงได้ทุกอย่างเลย
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เพราะผมไม่ต้องมานั่งใกล้ไมค์ซักเท่าไร เสียงพูดใกล้ เสียงพูดไกล ก็แทบจะเหมือนกันหมดเลย
แต่อันนี้ก็อาจจะเป็นข้อเสีย หากมีเสียงรบกวนแม้แต่นิดเดียว มันก็เข้าไปหมดเลย เพราะฉะนั้นต้อง Setting ให้ดี ไม่ควรตั้งค่าจับเสียงมากจนเกินไป
โดยรวมถือว่าชอบครับ แต่ยังไม่ถึงที่สุด คงจะใช้ไปซักพักนึง แล้วค่อยเดินขึ้นไปสู่ตัว Pro ต่อไป เพราะว่าไมค์ตัวนี้เสียงแค่ 16bit เท่านั้น
หากเป็นตัว Pro ความชัดของเสียงจะอยู่ที่ 24bit ซึ่งต่างกันค่อนข้างเยอะในระดับนึงเลย
สรุปแล้วรอบนี้ผมหมดตัวไป 5xxx บาท ( ไมค์ 3200 + Pop Filter 820 บาท + ขาแขวน 1400 บาท ยังไม่รวมภาษี)
ดูแล้วอาจจะบ้านะครับ ที่ผมมาลงทุนกับไมค์โครโฟนขนาดนี้ แต่ผมก็อยากจะทำให้ผู้ที่ดู Live Streaming ของผมนั้นได้ยินเสียงที่ดีที่สุดล่ะครับ
เป้าหมายต่อไปของผมคือ ไมค์ตัว Pro ซักตัวที่ราคาไม่ต่างจาก Blue Yet-i ตัวนี้นัก แล้วไปลงหนักๆกับ Audio Interface แรงๆซักตัวเลยดีกว่า
ไหนๆมาลองด้านนี้แล้วก็อยากจะไปให้ถึงที่สุดฮะ XD ใครอยากรู้ว่าเสียงเป็นยังไง ไว้มาดูตอนผม Live Stream ละกันเนอะ
ผมนี่กำลังหาตัวนี้มาใช้อยู่เลยครับ ขายในไทยก็แพงมาก หาเพื่อนหิ้วไม่ได้ TOT หากจะขยับไปใช้ตัวอื่น ขายให้ผมต่อเน้อครับ อิอิ
Sony ECM PC60 เซ็ตติ้งไมค์ยังไงให้เทพครับ
ลองอ่านการตั้งค่าจากอันนี้ดูครับ
http://www.men9ch.com/?p=1529
น่าสนใจครับ