กลับมารีวิวการ์ดแคปเจอร์ตัวใหม่อีกแล้วครับ สาเหตุที่ไม่ค่อยมีตัวใหม่ๆมารีวิวนักเพราะว่า Monster X U3.0R ของผมยังอยู่ดีเหมือนเดิม ใช้งานหนักมาก แต่ก็ยังถึกทนดีเช่นเดิม
วันนี้จะมีรีวิว Capture Card ของ AVerMedia LGX GC550 ครับ ราคาตอนที่ซื้อ (เดือน 8) อยู่ที่ 23,980เยน ตีเป็นเงินไทย เรทที่ซื้อมาคือ 34 บาท ก็ 8153 บาท
เป็นการ์ดที่ราคาเจ็บตามค่าเงินของช่วงเวลานั้นมากๆครับ เพราะว่า ณ เวลาที่เขียนรีวิวการ์ดนี้ ค่าเงินตกไปที่ 30 บาทแล้ว หมายความว่าถ้าซื้อตอนนี้ก็จ่ายแค่ 7190 บาท ครับ
ภายในกล่อง ก็จะมี ดังนี้ครับ
1. Capture card
2. USB 3.0 cable
3. 3.5 audio cable
4. Component cable
5. HDMI cable
6. Xsplit premium 3 month
ตัวหน้าตาของการ์ด ก็จะมีกรอบรูปด้านบน ซึ่งสามารถเปลี่ยนรูปที่ต้องการมาใส่แทนได้
ตัวการ์ดจะมี Internal และ External ในตัว หมายความว่า สามารถ ต่อภาพเข้าคอม และยังสามารถ out ไปสู่จอทีวีได้อีกทีนึง ตามสไตล์ External Capture card ในยุคนี้
ส่วนปุ่มตรงกลาง คือน๊อตสำหรับหมุนขันเอาฝาปิดกรอบรูปด้านบนออก เพื่อใช้ในการเปลี่ยนรูปตรงด้านบนของ card นั่นเอง
ตัวการ์ดสามารถต่อ Mic และ AUX เข้าไปเพิ่มให้เสียงออกผ่านโปรแกรมของ AVermedia ได้ด้วย
ตัวสาย USB 3.0 จะเป็นแบบ micro Type B connector หัวแบน
[divider]
โปรแกรม
ตัวการ์ดจะมีโปรแกรมของตัวเอง เป็น RECentral 3 ใช้ในการ Preview ภาพของต้นทางเข้ามา โดยตัวโปรแกรมจะสามารถตั้งค่าอัด หรือ Screenshot รวมถึงสามารถใช้ Live Streaming ได้ด้วย
สามารถจัด Scene ได้ โดยสามารถตั้ง Webcam หรือ Image ต่างๆ ใช้สำหรับการสตรีมมิ่งได้
ระบบ Streaming ก็รองรับ Streaming Platform เว็บดังๆเกือบทุกเว็บ รวมถึงสามารถใช้ Custom RTMP ได้ด้วย
การตั้งค่า Resolution FPS และ Bitrate ของ Streaming สามารถตั้งค่าได้เช่นกัน มีตั้งแต่ 300kbps ไปจนถึง 4500kbps
(หากปรับ Quality เป็น Custom จะสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ)
[divider]
ระบบอัด
จากการทดลองอัดแล้วพบว่า ไฟล์ที่อัดมาค่อนข้างดี และลื่นไหลตามต้นฉบับดี ใน RECentral 3 ก็จะมีสามารถตั้งค่าให้ใช้ไมค์จากตัว Card ขณะอัดไปได้ด้วย (ช่องที่เสียบไมค์ และ AUX จากภาพด้านบน)
[divider]
คุณภาพของภาพ
จากการทดสอบทั้งหมด 4 เครื่อง PS4 VitaTV WiiU Wii
พบว่า การใช้โปรแกรม RECentral 3 เล่นกับ PS4 นั้น จะมีปัญหาเรื่องการส่งข้อมูลที่ไม่ค่อนเสถียรเท่าที่ควร คือเล่นๆอยู่ การตอบสนองของภาพก็จะมี Delay ออกห่างไปเรื่อยๆ ซึ่งอาการนี้ผมใช้ Monster X U3.0R ไม่เคยเจอแบบนี้เลย
กรณีที่คิดจะเล่นเกมบนจอคอมเลย คงจะเป็นอะไรที่น่ารำคาญอยู่บ้าง เพราะต้องคอยปิดเปิดโปรแกรมอยู่เรื่อยๆให้มันรับสัญญานใหม่อีกครั้งนึง เพื่อให้ Delay หายไป ผมต้องใช้วิธี ไปใช้โปรแกรม AmarecTV เพื่อรับภาพแทน
ปัญหา Delay ถึงลดน้อยลงไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหายไปเลยนะครับ ส่วนภาพจาก VitaTV ซึ่งเป็น 720p และ Wii ซึ่งเป็น 480p ผ่านสาย Component นั้นไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากส่งข้อมูลทัน
และภาพจากเครื่อง Wii ซึ่งรับภาพผ่าน Component นั้นถือว่าออกมาค่อนข้างชัดเลย
[divider]
ตัวอย่าง Screenshot
[divider]
สรุป
โดยรวมแล้ว คิดว่าเป็นการ์ดที่ดีครับ หากไม่ได้ใช้กับโปรแกรมของมันเอง อย่างที่อธิบายไปว่า มันเกิดการ Delay ของภาพ กรณีใช้กับ PS4 ส่วน VitaTV และ PS3 จะต้องหา HDMI Splitter มาใช้เพิ่มด้วย เนื่องจากมันติด HDCP ทำให้รับภาพไม่ได้ครับ ถ้าถามผมแล้ว ผมชอบการ์ดตัวนี้ตรงที่ Component มันรับภาพชัดมากเลย เหมาะสำหรับคนนิยมเล่นเกมเครื่องเก่าๆอย่างผมดีมาก แต่ถ้าใครคิดจะซื้อการ์ดตัวนี้แนะนำให้ใจเย็นๆแล้วรอดูจังหวะลดราคาใน amazon ดีกว่า เพราะสังเกตุเห็นว่ามีลดราคาบ่อยมาก จาก 179usd เหลือ 129 usd ถ้าเป็นราคาลดแล้ว น่าจะเหมาะสมกว่าราคาเต็มครับ ส่วนตัวผมก็ยังเทใจไปให้ Monster X U3.0R มากกว่า ถ้าจะเอามาแคปเจอร์ PS4 นะครับ
รีวิวประมาณนี้ล่ะครับ หวังว่าข้อมูลนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้ที่คิดจะซื้อการ์ดแคปเจอร์ตัวนี้ไม่มากก็น้อยนะครับ