โดยปกติแล้ว ผมเป็นคนที่ชอบดูไฟล์ย้อนหลังของตัวเอง ว่างๆก็จะเปิดดูว่าตอนนั้นเราเล่นฟายยังไงบ้าง
(ภาพตัวอย่างไฟล์ย้อนหลังที่ผมเก็บไว้เสมอ จากทั้ง 2 โปรแกรมที่ผมใช้สตรีม อันนี้คัดแล้วจากไฟล์ในอดีตกว่า 1TB)
รวมถึงพวกเกม RPG ที่ต้องเอามาเปิดอ่านเนื้อเรื่องอีกที บางทีเปิดสตรีมเชื่อเถอะ ไม่ค่อยมีสมาธิอ่านหรอก เพราะต้องหันไปดูแชทด้วย
ฉะนั้นเราต้องเก็บแบบชัดๆเอาไว้ เผื่อใครจะเอาไปอัพต่อลง Youtube Channel ของตัวเอง อะไรแบบนี้
เราไม่ควรหวังพึ่งระบบย้อนหลังของเว็บสตรีมมิ่งซักเท่าไร ไม่ว่าเว็บไหน ก็มีล่ะปัญหาไฟล์เสีย มันไม่มีทางหรอกที่จะไม่เสียเลยซักครั้ง
ยกเว้นว่าจะเป็นระบบที่ใหญ่ระดับโลกอย่าง youtube อันนั้นยอมเขาเถอะครับ ระบบเครื่อง Encode ของเขาเยอะขนาดไหน ก็รู้ๆกัน
เอาล่ะ เรากลับมาที่เรื่องไฟล์ย้อนหลัง การเก็บไฟล์ย้อนหลังนั้น จะมีอยู่ทั้งหมด 3 แบบ ดังต่อไปนี้
บทความนี้ผมจะอ้างอิงจาก Xsplit นะครับ แต่จริงๆแล้วโปรแกรมสตรีมอื่นที่มีฟังก์ชั่นการอัดวิดีโอก็มีเช่นกัน
1. การเก็บย้อนหลังแบบ Auto Recording จากโปรแกรมสตรีม
โดยระบบจะทำการอัดวิดีโอที่เรากำลังสตรีมอยู่นั้นไปด้วย โดยที่ความละเอียดจะเท่ากับบิทเรตที่ตัวเองตั้งไว้ เช่น ตั้ง 1000kbps ภาพย้อนหลังก็จะได้ 1000kbps เช่นกัน ในกรณีถ้าเอามาเก็บไว้ดูย้อนหลังของตัวเองเฉยๆ ก็ถือว่าเป็นการเก็บไฟล์ย้อนหลังที่ดีครับ ผมยกตัวอย่าง ผมตั้ง bitrate 2000kbps อัดไปทั้งหมด 6 ชั่วโมง วิดีโอจะอยู่ที่ประมาณ 5-6GB เท่านั้น การตั้งค่าจะอยู่ใน Channel Properties ครับ
2. การเก็บย้อนหลังแบบ Local Recording จากโปรแกรมสตรีม
การอัด Local Recording คือการอัด โดยโปรแกรมจะใช้ Setting ตามในโปรแกรมสตรีม เช่นตั้ง Base Resolution ไว้ 1280×720 fps 60 โปรแกรมก็จะอัดให้แบบความชัดจะมีอยู่ทั้งหมด 5 แบบคือ
Standard / High / Very High / Ultra High และ Custom สามารถตั้ง Codec ได้ 2 แบบคือ x264 และ NVENC x264 (ใช้การ์ดจอในการช่วยทำการอัด) และอัดออกมาได้สองแบบคือ flv และ mp4
วิธีตั้งค่า ต้องเข้าไปใน Broadcast แล้วเข้าที่ Local Record
การตั้งค่าก็มีแค่เพียงเท่านี้เอง
ส่วนวิธีอัดนั้นก็แค่ กด Local Recording ลงไปเพิ่ม ตอนกำลังสตรีมอยู่ ให้มันทำงานคู่กันกับสตรีมไป หากต้องการปิด Local Recording แล้วก็เพียงแค่กดลงที่ปุ่มเดิมเท่านั้นเอง สามารถเอาไปใช้ได้หลายวิธี เช่นเจอฉากฮาๆ ก็กดอัดแค่ช่วงนั้นแล้วก็ปิดการอัดได้เลย ไม่เหมือนการอัดผ่าน Auto Recording ของข้อ 1 ที่จะต้องกดปิดสตรีมชั่วขณะ ให้มันแบ่งไฟล์วิดีโอ ซึ่งวุ่นวายเกินไป ยังไง Local Recording นี่ก็ดีกว่าเยอะครับ
ภาพเปรียบเทียบ Local Recording Quality ระหว่าง Standard กับ Ultra High
จากภาพจะเห็นว่าความต่างนั้น จะเกิดขึ้นตรงจุดที่มีการขยับเฟรมมากเท่านั้น แต่เมื่อเป็นจุดที่ไม่มีการขยับเลย อย่างตัวหนังสือ ก็แทบจะเหมือนกันหมด
เพราะฉะนั้นลองถามตัวเองดูครับว่า ควรจะอัดแบบไหนดี อัดเพื่อดูเล่นเฉยๆ หรือ เอาไปอัพลง Youtube ต่อ เลือกให้ดีครับเพราะว่าขนาดไฟล์มันต่างกันครับ
ผมทดลองอัดแบบ 1080×608 ความชัดระดับ Ultra High เวลา 3 นาที 31 วินาที ขนาดไฟล์อยู่ที่ 19.6mb ครับ
3. การเก็บย้อนหลังผ่านระบบย้อนหลังของเว็บ
ระบบย้อนหลังของเว็บนั้นจะทำการ Encode ไปเป็น Codec คนละแบบกับ 2 วิธีที่ว่าไว้ด้านบน ซึ่งความละเอียดของภาพแน่นอนว่า สู้แบบ Local Recording ไม่ได้ชัวร์ๆ
ซึ่งหากจะหวังพึ่งแค่ระบบ Timeshift ของเว็บต่างๆ คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะการที่จะปล่อยให้เซิฟเวอร์ทำการ Encode ให้สำเร็จตลอด มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ
ผู้สตรีมควรจะอัดเก็บเอาไว้ด้วย กันไว้เผื่อเวลามีปัญหาครับ
[divider]
เปรียบเทียบภาพการอัดภาพทั้ง 3 แบบ
[divider]
สรุป
ยังไง Local Recording ก็ดีสุด เมื่อเปรียบเทียบกับการเก็บไฟล์ย้อนหลังของเว็บสตรีมมิ่งแล้ว
แต่ว่าการอัดเพิ่มเติมก็ต้องใช้ CPU เพิ่มเติมด้วย หากใครเอาไปเล่นเกม แล้วใส่ความสวยงามให้กับเกมเต็มที่ แล้วต้องการจะอัด ก็ควรจะซื้อ CPU แรงๆมาใช้ครับ
จะพึ่งให้เว็บทำงานให้อย่างเดียวเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ อย่าลืมว่าเว็บสตรีมมิ่งเขาก็ใช้เครื่องเซิฟเวอร์ เหมือนกัน และเซิฟเวอร์ทำงานตลอดเวลา ทั้งวัน ทั้งเดือน ทั้งปี
มันต้องมีผิดพลาดกันบ้าง ฮาร์ดแวร์เสื่อมสภาพ ทำให้ไฟล์ย้อนหลังเสีย กันบ้างครับ
ยังไงก็ลองใช้กันดูนะครับ